Antacid

ชื่อสามัญ

Aluminium hy droxide

รูปแบบยา 

ยาน้ำแขวนตะกอน

ยานี้ใช้สำหรับ 

1. บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยเนื่องจากแผลที่ทางเดินอาหาร/แผลเปบติค(Ulcer dyspepsia)

2. บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยชนิดไม่มีแผลที่ทางเดินอาหาร (Functional or Non – ulcer dyspepsia)

3. บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยเนื่องจากกรดไหลย้อน ชนิดไม่ก่อให้เกิดแผลที่หลอดอาหาร (Non – erosive gastro – esophageal reflux)

4. บรรเทาอาการปวดท้อง แสบร้อนกลางอก และใช้เคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้

วิธีการใช้ยา 

 ยาเม็ดซึ่งมักจะเป็นเม็ดขนาดใหญ่และต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนยาน้ำแขวนตะกอน ต้องเขย่าขวดก่อนใช้เพื่อให้ตัวยาเข้ากันดีก่อน ลดปวดได้เร็ว เคลือบกระเพาะอาหารได้ดีกว่ายาชนิดเม็ดสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคแผลกระเพาะอาหารอาการปวดแสบร้อนท้อง อืดเฟ้อ ใช้ยาลดกรดตามฉลากยา มีคำแนะนำเพิ่มเติมดังนี้

1.       ไม่ควรรับประทานยาตอนท้องว่าง กระเพาะจะบีบไล่ยาออกไปสู่ลำไส้เล็กเร็ว

2. ไม่ควรรับประทานยาหลังอาหารเร็วเกินไป อาหารจะไปเจือจางกรดในกระเพาะอยู่แล้ว
3. โรคแผลกระเพาะอาหาร ควรใช้ยาลดกรดแบบนี้เรื่อยไปจนกว่าอาการปวดท้องจะทุเลา ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
4. คนที่ท้องอืดเฟ้อเป็นครั้งคราว ควรใช้ยาเฉพาะเมื่อมีอาการ และอีกมื้อยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมงและก่อนนอน โดยมากจะหายไปใน 1-3 วัน
5. ปวดท้องภายหลังอิ่มอาหาร ควรใช้ยาลดกรดที่ออกฤทธิ์เร็ว เช่นโซดามินต์ หรือแคลเซียมคาร์บอเนตเพื่อให้หายเร็ว หากไม่หายภายใน 5 นาทีให้รับประทานยาอีก
6. ถ้ามีอาการปวดแสบ หรือจุกเสียดตรงใต้ลิ้นปี่ก่อน หรือหลังอาหารหรือตอนดึกๆ ควรรับประทานยาลดกรชนิดน้ำครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือ 1 เม็ด ร่วมกับยายับยั้งการหลั่งกรด เช่น ไซเมทิดีน หรือแรนนิติดีน นานไม่เกิน 2 สัปดาห์

สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ 

1.       มีหรือเคยมีประวัติโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหาร

2.      จำกัดอาหารเค็ม

3.      การแพ้ยา aluminum hydroxide ยา magnesium hydroxide หรือแพ้ยาอื่นๆ

4.      ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพรที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้

5.      มีหรือเคยมีประวัติโรคตับหรือโรคไต

6.      การตั้งครรภ์ การวางแผนในการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร

  

ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา 

โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

อาการอันไม่พึงประสงค์ทั่วไป 

อาการไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ 

มีดังนี้ ท้องเสีย หรือท้องผูก ริดสีดวงทวาร การรับรสชาติผิดปกติ (chalky taste)

อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที 

อ่อนเพลียหรือเหนื่อยบ่อย สับสน ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บและปวดกระดูกหรือข้อ มีอาการภูมิแพ้ที่ผิวหนัง เช่น ผื่นแดง คัน ลมพิษ ใบหน้า ริมฝีปากหรือลิ้นบวม

การเก็บรักษายา 

1.      เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก

2.       เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น

3.      เก็บยาทิ้งเมื่อหมดอายุ