ชื่อสามัญ:
Furosemide
รูปแบบ/ความแรง:
Furosemide
tablets (40 mg/tablet)
Furosemide tablets (500
mg/tablet)
ข้อบ่งใช้:
ยานี้เป็นยาขับปัสสาวะใช้เพื่อรักษาอาการบวมและคั่งของน้ำ
ซึ่งเป็นผลมาจากโรคหัวใจหรือ
โรคตับ
หรือใช้เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง
วิธีใช้ยา:
•
ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปรับประทานวันละ
1-2 ครั้ง หรือให้ใช้ยา
นี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด
โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมี
ข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
•
กรณีที่รับประทานยาวันละ 1 ครั้ง ให้รับประทานยาตอนเช้า
แต่ถ้ารับประทานวันละ 2 ครั้ง ให้
รับประทานยาตอนเช้าและเที่ยง
• ควรรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกครั้ง
• การรับประทานยานี้พร้อมอาหารหรือนมจะช่วยลดอาการไม่สบายท้องซึ่งเกิดจากยาได้
•
ห้ามหยุดใช้ยาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน
•
ไม่ควรรับประทานยานี้ก่อนนอนเนื่องจากยามีผลทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
• หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยไม่จำเป็นและควรใช้ครีมป้องกันแสงแดด
เนื่องจากยานี้ทำให้
ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้น
•
การรับประทานยานี้อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงซึมได้ ดังนั้นไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ
หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล
และควรเปลี่ยนท่าทางอย่างช้าๆ
•
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างที่รับประทานยานี้อยู่
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ::
• มีประวัติแพ้ยา furosemide
ยาซัลฟา หรือแพ้ยาอื่นๆ
• ยาอื่นๆ
ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร
ที่ท่านใช้อยู่ใน
ขณะนี้หรือกำลังจะใช้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาลดความดันโลหิต ยาโรคเบาหวาน แอสไพริน
ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น indomethacin) ยาจิตเวช (เช่น lithium)
• มีหรือเคยมีโรคหรือสภาวะต่างๆ
ดังนี้ การทำงานของตับ หรือไตผิดปกติ เป็นโรคเบาหวาน โรค
เกาต์
• หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำฟัน
ต้องแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบก่อนทำการรักษา
• ตั้งครรภ์
หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานหรือยา:
• โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา
ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป
ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา:
•
อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันทีมีดังนี้ ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือดท้องเสีย
ปากแห้ง มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ การได้ยินลดลง หรือมีเสียงกริ่งในหู กระหายน้ำมากขึ้น
หัวใจเต้นผิดปกติ ปวดหลังส่วนล่าง หรือสีข้างลำตัว อารมณ์แปรปรวน ปวดกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นตะคริว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องมาก ผื่นคัน ผิวหนังลอก
ชาบริเวณมือหรือเท้า มีเลือดออกหรือมีรอยช้ำผิดปกติ เหนื่อย อ่อนเพลียผิดปกติ
ตาหรือตัวเหลือง หายใจลำบาก กลืนอาหารลำบากน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วผิดปกติ
•
อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง
หรือ รบกวนชีวิตประจำวันให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ มีดังนี้ เวียนศีรษะ
ปวดศีรษะ
การเก็บรักษายา:
•
เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท
และเก็บให้พ้นมือเด็ก
•
เก็บยานี้ในภาชนะที่ป้องกันแสงได้ เช่น ขวดหรือซองสีชา
• เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า
30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูก
แสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
•
ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น