วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Diclofenac


ชื่อสามัญ
Diclofenac 25 MG
รูปแบบยา
ยาเม็ด
ยานี้ใช้สำหรับ
เป็นยาแก้ปวดในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal Anti-inflammatory Drugs: NSAID) หรือที่เรียกกันว่า เอ็นเสด ช่วยในการบรรเทาอาการปวด บวมจากการอักเสบ ปวดตามข้อ ไขข้อกระดูก เช่น โรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ปวดท้องจากประจำเดือน โรคข้ออักเสบ อาการตึงขัดของข้อ โดยเข้าไปยับยั้งการสร้างสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ในร่างกายที่เป็นตัวก่อให้เกิดอาการบวมและอักเสบ
วิธีการใช้ยา

      วิธีใช้ยาต่อไปนี้เป็นข้อมูลทั่วไปไม่ใช่สำหรับผู้ใช้ยาเฉพาะราย โปรดปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาของท่านยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดควบคุมการปลดปล่อยยา ใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปรับประทานวันละ 1 ครั้ง หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีที่ระบุบนฉลากอย่างเคร่งครัดโดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ควรรับประทานยา Diclofenac  หลังอาหารทันที พร้อมดื่มน้ำตามหนึ่งแก้ว เพื่อลดไม่พึงประสงค์ต่อทางเดินอาหาร เช่น ไม่สบายท้อง แสบท้องยานี้อยู่ในรูปแบบเม็ดรูปแบบควบคุมการปลดปล่อยตัวยา ควรรับประทานยาโดยกลืนยาทั้งเม็ด ห้ามบด หัก เคี้ยว เม็ดยา และไม่ควรรับประทานพร้อมกับยาลดกรด

สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ
1.      ประวัติถ้าแพ้ยาไดโคลฟิแนค (diclofenac) แอสไพริน (aspirin) หรือยาอื่นๆในกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ibuprofen naproxen หรือแพ้ส่วนประกอบอื่นๆที่อยู่ในตำรับยา
2.      ใช้หรือกำลังใช้ยาอื่นๆทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร โดยเฉพาะ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ตัวอื่น ๆ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยารักษาโรคเบาหวาน ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ เป็นต้น
3.      มีหรือเคยมีภาวะหอบหืด โดยเฉพาะถ้ามีอาการกำเริบบ่อยๆ  มีภาวะติ่งเนื้อที่โพรงจมูก (nasal polyps) และหอดหืดที่เกิดจากยาแอสไพริน (aspirin)
4.      มีโรคประจำตัวอื่น เช่น มีความผิดปกติของการทำงานของตับหรือไต ภาวะ porphyria   มีภาวะแพ้ภูมิตัวเอง (systemic lupus erythematous) เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน
5.       มีประวัติเป็นโรคหัวใจ มีอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคดังกล่าว และ ผู้ป่วยที่กำลังผ่าตัดทำศัลยกรรมปลูกถ่ายหลอดเลือดหัวใจโคโรนารี (coronary bypass graft surgery)
6.      มีประวัติเกิดแผลในทางเดินอาหาร เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้
7.      เคยมีประวัติการบวมที่มือ แขน น่อง เท้า หรือข้อเท้า
8.      ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 (ช่วง 2-3 เดือนก่อนคลอด) หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
9.      หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำฟัน ต้องแจ้งให้แพทย์ผู้ผ่าตัดหรือทันตแพทย์ทราบก่อนว่าท่านใช้ยาตัวนี้อยู่
10.  ประวัติของสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา
โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ ถ้าเป็นเวลาใกล้มื้อถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปได้เลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อาการไม่พึงประสงค์ทั่วไป
หลังการรับประทานยา Diclofenac ผู้ป่วยอาจเกิดอาการผิดปกติได้หลายลักษณะ เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในท้อง เรอ ท้องผูก ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือมีสีดำ ปัสสาวะน้อยและขุ่น ท้องเสีย ง่วงนอนหรือนอนหลับยาก ระบบย่อยผิดปกติ อาการคันหรือเป็นผื่นบริเวณผิวหนัง ไม่มีความอยากอาหาร คลื่นไส้ อาเจียนเป็นเลือดหรือมีสีดำ เจ็บหน้าอก มีภาวะซีด หายใจลำบาก น้ำหนักลด เป็นต้น ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากตัวยาที่พบได้บ่อย
อาการไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
1.      ภาวะความดันเลือดต่ำจนทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
2.      ตับเกิดการอักเสบหรือผิดปกติ สังเกตได้จากดวงตาหรือผิวหนังจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แขนขาและบริเวณท้องน้อยเกิดอาการบวม
3.      ภาวะหัวใจล้มเหลว ส่งผลให้แขนบวม หายใจหอบ เหนื่อยง่ายกว่าปกติแม้เดินในระยะสั้น ๆ   
4.     ผิวหนังมีรอยช้ำหรือเกิดการแพ้ยาอย่างรุนแรง เช่น กลุ่มอาการของโรคสตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens-Johnson Syndrome) หรือโรคท็อกซิก อีพิเดอร์มัล เนโครไลซิส (Toxic Epidermal Necrolysis: TEN)
การเก็บรักษายา
1.      เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
2.      เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้ร้อนกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
3.      ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น